สูตรหน้าขาวใสด้วยมะนาว
1. สูตรหน้าใส ลดสิว (ส่วนผสม น้ำมะนาวครึ่งลูก และดินสอพอง 4-5 เม็ด หรือแล้วแต่เราต้องการนะคะ) นำดินสอพองแล ะมะนา วมาผสมให้เข้ากัน (อย่าใส่ มะนาว มากเกินไปนะคะ) จะได้ครีมที่เหนียวข้น พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาทีก่อนเข้านอน และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละประมาณ 3 – 4 ครั้ง ประมาณ 3 เดือน และหลังจากนั้นก็ลดจำนวนครั้งลงค่ะ และสูตรมะนาวกับดินสอพองนี้ ยังสามารถช่วยลดรอยจุดด่างดำที่ขาได้ด้วยค่ะ โดยให้ทาบริเวณขาทุกคืนก่อนนอน ตื่นเช้าค่อยล้างออก ทำเป็นประจำจุดด่างดำก็จะค่อยๆ หายไปค่ะ
2. สูตรแต้มสิว (ส่วนผสม น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และไข่ขาว 1 ช้อนชา) ให้นำส่วนผสมทั้งสองมาผสมกันและตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน แต้มที่ตุ่มสิวทิ้งไว้ 30 นาที ล้างออกด้วยโฟมล้างหน้า สิวจะหายไปค่ะ (แต่อาจจะไม่ได้หายภายในครั้งเดียวนะคะ ต้องทำบ่อยๆ)
3. สูตรหน้าอ่อนวัย ใสปิ้ง (ส่วนผสม น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ) นำส่วนผสมมาคนให้เข้ากัน ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้งนะคะ
4. สูตรลดการตกกระและชะลอการเกิดรอยตีนกา (ส่วนผสม น้ำมะนาว น้ำผึ้ง แป้งหมี่ ไข่แดง) นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เข้ากัน นำมาพอกบนหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง
5. สูตรหน้าขาวใสเปล่งปลั่ง (ส่วนผสม มะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ และหัวไชเท้า 1/2 ถ้วยตวง) นำส่วนผสมมาปั่นรวมกันให้ละเอียดกลายเป็นเนื้อเดียวกัน นำไปพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
6. สูตรกระชับรูขุมขน (ส่วนผสม น้ำมะนาว 1 ผล น้ำอุ่นสำหรับล้างหน้า และน้ำเย็นแบบที่แช่ในตู้เย็น) ล้างหน้าให้สะอาดและล้างครั้งสุดท้ายด้วยน้ำอุ่น ใช้ผ้าซับหน้าให้แห้ง และใช้ มะนาว ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น และใช้น้ำเย็นล้างหน้าอีกครั้ง
***************************************************
วิธีทำใหผมยาวเร็ว
1. วิธีทําให้ผมยาวเร็วโดยการออกกำลังกายให้เส้นผม เส้นผมเป็นส่วนที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาทต่างๆ เซลล์รากผมก็ยังจัดว่าเป็นเซลล์ที่มีอัตราการเติบโตเร็วมากๆ ดังนั้นแล้ว หากได้รับการกระตุ้น รากผมย่อมสามารถที่จะโตได้อย่างรวดเร็ว ทำได้โดยเร่งให้ผมยาวด้วยการก้มศีรษะให้เลือดไปเลี้ยงที่ศีรษะค้างไว้ 30 วินาที ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาทำเช่นนี้ทุกวัน เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงและยาวเร็วขึ้นด้วย
2. วิธีทําให้ผมยาวเร็วโดยการเพิ่มโปรตีน เซลล์ส่วนใหญ่ในร่างกายเราสามารถถูกทำให้สึกหรอได้เช่นไร ผมก็เช่นกัน แล้วโปรตีนมีประโยชน์ต่อร่างการยังไง ก็มีประโยชน์กับเส้นผมอย่างนั้นโปรตีนสามารถปกป้องและซ่อมแซมเส้นผม ลดการหลุดร่วงและการแตกหักของเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง และยาวเร็วขึ้นได้ ดังนั้นควรกินอาหารที่มีโปรตีน เช่น นมถั่วเหลือง เนื้อสัตว์
3. วิธีทําให้ผมยาวเร็วโดยการกินปลา ปลา พืชผักใบเขียว และบลูเบอรี่เป็นอาหารที่ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ฉะนั้นบริเวณใดก็ตามในร่างกายที่มีเลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงได้ดีจะทำให้ ร่างกายบริเวณนั้นแข็งแรง มีชีวิตชีวา รวมไปถึงเส้นผมบนศีรษะด้วย
4. วิธีทําให้ผมยาวเร็ว การนวดศีรษะจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนศีรษะ และยังจะช่วยทำให้เส้นผมเติบโตเร็วขึ้น การนวดศีรษะอาจทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านในขณะสระผม โดยการใช้นิ้วมือกดและนวดไปตามจุดบนศีรษะอย่างเบามือ
5. วิธีทําให้ผมยาวเร็วโดยการหวีผมให้ถูก หลีกเลี่ยงการทำให้เส้นผมขาดและหลุดร่วงด้วยการไม่หวีผมขณะยังเปียกอยู่ เลือกใช้หวีซีกใหญ่และห่างในการหวีผมช่วงผมเปียกแทน
6. วิธีทําให้ผมยาวเร็วโดยการตัดผมบ้าง การเล็มผมบ่อย ๆ จะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น และยังเป็นการกำจัดผมแตกปลายไปในตัวด้วย
7. วิธีสุดท้ายเห็นผลเร็วแน่นอน โดยการต่อผม ลองมองหาร้านทำผมที่มีบริการต่อผมดู ให้เลือกใช้บริการร้านต่อผมที่ค่อนข้างมีประสบการณ์จะดีกว่าเพราะอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าร้านที่ไม่มีประสบการณ์
******************************************************
15 วิธีลดความอ้วนอย่างรวดเร็วด้วยตัวเอง
1. ขอให้ตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะทำจริงในการลดความอ้วนด้วยตัวเอง อาศัยรวดเร็วอย่างเดียวไม่ได้นะคะ
2. วิธีลดความอ้วนที่ถูกต้องที่สุดคือ การลดน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอ คือควรลดประมาณสัปดาห์ละ 0.5 - 1 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นการลดน้ำหนักแบบรวดเร็วและปลอดภัยแล้ว และเมื่อลดได้แล้วก็ต้องควบคุมน้ำหนักด้วยตัวเองให้คงที่ได้ตลอดไป
3. ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ และสามารถที่จะทำได้ เพื่อสุขภาพควรตั้งเป้าหมายที่จะลด คือ 5-10% ของน้ำหนักเริ่มต้น เช่น น้ำหนักตัวเริ่มต้น 80 กิโลกรัม ลดได้ 5% คือลดประมาณ 4 กิโลกรัม ถ้าลด 10% คือลดประมาณ 8 กิโลกรัม ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดลดลง ความดันโลหิตลดลงและไขมันในเลือดลดลงด้วย จะหาแค่วิธีลดความอ้วนเร่งรัดอย่างเดียวไม่ได้ การลดน้ำหนักอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็น
4. แบบแผนการลดน้ำหนักควรยืดหยุ่น และจะต้องช่วยลดความหิวและอ่อนเพลียได้ สำหรับผู้หญิงควรได้รับพลังงานต่ำสุด800-1200 กิโลแคลอรีต่อวัน และสำหรับผู้ชายควรได้รับพลังงานต่ำสุดประมาณ 1400-1600 กิโลแคลอรีต่อวัน เพื่อป้องกันการขาดวิตามินและเกลือแร่
5. ควรจะใช้วิธีลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไปสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม ควรลดปริมาณอาหารจากที่กินปกติลงวันละ 200-300กิโลแคลอรี (ใช้เวลาออกกำลังกายวันละ 45-60 นาที) จะลดความอ้วนได้ผลดีกว่าลดปริมาณอาหารอย่างเดียววันละ 500 กิโลแคลอรี
6. การจะมีรูปร่างดีได้ จะต้องมีความตั้งใจจริง เรียนรู้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและเปลี่ยนแปลงนิสัยการบริโภคทีละน้อยเพื่อสร้างความเคยชิน
7. วิธีควบคุมน้ำหนักให้ได้ผลจริงในระยะยาว คือควบคุมพลังงานที่ได้รับจากอาหารที่บริโภคในแต่ละวันให้ได้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้ออกไป และต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
8. การจำกัดอาหาร ในระยะแรกน้ำหนักที่ลดได้มากส่วนใหญ่มักจะเป็นน้ำ ระยะต่อๆ มาจึงจะเป็นระยะที่ร่างกายลดไขมัน ดังนั้น ต้องมีความตั้งใจควบคุมอาหาร ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารให้ถูกต้อง ให้ได้จริงๆ ถ้าหันกลับไปรับประทานอาหารเหมือนเดิม จะทำให้น้ำหนักส่วนที่ลดเพิ่มคืนมาอย่างรวดเร็ว และควรออกกำลังกายเพื่อป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่ม
9. สำหรับผู้ที่เพิ่งลดความอ้วน ร่างกายจะยับยั้งการใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงาน ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารที่มีไขมันให้น้อยลง และออกกำลังกายควบคู่กับการควบคุมอาหารเพื่อป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่ม
10. การที่น้ำหนักตัวลดลงรวดเร็วในช่วงแรกๆ ระยะต่อมาทำให้ลดน้ำหนักยากขึ้น เพราะระบบการเผาผลาญของร่างกายลดต่ำลง และปัญหาการปฏิบัติตัวอย่างไม่ต่อเนื่อง
11. น้ำหนักตัวที่ลดลงได้ ถ้าควบคุมไม่จริงจัง ปล่อยให้น้ำหนักเพิ่มคืนมา น้ำหนักที่เพิ่มคืนมาจะเป็นเนื้อเยื่อไขมันที่เพิ่มขึ้น และอาจจะอ้วนมากและเร็วกว่าเดิม
12. จดบันทึกการกินและการออกกำลัง จะช่วยให้เข้าใจถึงพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังรวมทั้งปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการเพิ่มน้ำหนักตัว มองเห็นวิถีชีวิตที่ต้องแก้ไข ทำให้ระวังตัวในเรื่องการเลือกชนิดอาหารให้มีคุณภาพมากขึ้นโดยเลือกอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำแต่สารอาหารครบถ้วนและหาโอกาสออกกำลังกายเพิ่มที่เหมาะกับตัวเอง
13. อดอาหารมากเกินไป การจำกัดแคลอรีมากเกินไป โดยเฉพาะการขาดจากโปรตีน จะทำให้ร่างกายสะสมแคลอรีมากกว่าที่จะเผาผลาญออกไป และยังทำให้ร่างกายสลายกล้ามเนื้อมาเป็นแหล่งพลังงาน เมื่อกล้ามเนื้อลดลง การเผาผลาญก็ลดลง เพราะกล้ามเนื้อเป็นตัวที่เผาผลาญพลังงาน
14. กินเร็วเกินไป โดยปกติร่างกายต้องใข้เวลาประมาณ 15-20 นาที สัญญาณความอิ่มจะเดินทางไปถึงสมอง (เพื่อบอกให้หยุดกิน) การกินเร็วเกินไป จึงทำให้ร่างกายได้รับอาหารมากเกินความต้องการ
15.ควรป้องกันไม่ให้น้ำหนักที่ลดเพิ่มขึ้นได้ภายใน 6 เดือน คุณอาจลดความอ้วนเพิ่มได้อีก ดังนั้นอย่าชะล่าใจ หยุดควบคุมและกลับไปกินตามใจปาก
***********************************************************